บทที่ 5
การจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานสำหรับผู้ใช้งาน
(Manage User Profiles, Logon
Scripts, and Environment Variables)
สภาพแวดล้อมในการทำงานของเครื่องลูกข่าย
ในระบบเครือข่ายแบบโดเมนนั้น เราสามารถจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานของเครื่องลูกข่ายในเรื่องต่างๆ
เพื่อความสะดวกในการทำงานของผู้ใช้ดังนี้
-
การเชื่อมกับเครื่องเซอร์ฟเวอร์ที่กำหนดเพื่อเข้าใช้ข้อมูลทุกครั้งที่
Logon
-
การกำหนดกลุ่มของโปรแกรมที่สามารถเรียกใช้งานได้เมื่อ
Logon
-
การกำหนดงานในระบบที่สามารถเรียกใช้ได้
-
ลักษณะของ Desktop เช่น สีพื้น,ขนาดตัวอักษร,
Screen Server
-
คำสั่งที่ต้องการให้ทำงานอัตโนมัตเมื่อ
Logon (Logon Script)
-
ตัวแปรที่ต้องการกำหนดไว้ล่วงหน้า(Environment
Variable)
ระบบปฎิบัติการบางชนิด เช่น ยูนิกซ์,เน็ตแวร์
เมื่อผู้ใช้ Logon เข้าสู่ระบบก็จะมี Logon Script ช่วยกำหนดสภาพแวดล้อมให้ก็เพียงพอแล้วเพราะการติดต่อกับผู้ใช้เป็นแบบ
Text ที่ไม่ค่อยซับซ้อน ต่างกับวินโดวส์เอ็นทีที่มีการติดต่อกับผู้ใช้แบบกราฟฟิค
ทำให้การจัดสภาพแวดล้อมของเครื่องลูกข่ายจำเป็นต้องสร้างระบบเพิ่มขึ้น ผู้ออกแบบวินโดวส์เอ็นทีได้ออกแบบ
"Profile" เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อมของเครื่องลูกข่ายไว้
อย่างไรก็ตาม Profile ของวินโดวส์เอ็นทีนั้นจะมีประโยชน์กับเครื่องลูกข่ายที่เป็น
NT Workstation เท่านั้น ส่วนเครื่องลูกข่ายที่เป็น DOS, Windows 3.11, Windows
for Workgroup 3.11 จะไม่มีผลต่อเครื่องเหล่านี้ ส่วน Windows 95 นั้นจะต้องมีการกำหนดเพิ่มเติมเพื่อให้ใช้งานได้
รายการ Profile ที่ระบบจะต้องเก็บไว้ได้แก่
Windows NT Explorer |
เก็บรายการที่ปรับแต่งแล้วสำหรับโปรแกรม
NT Explorer เช่น เมนู View/Option |
Task Bar |
การปรับแต่ง Task Bar และรายการของโปรแกรมใน
Start Menu |
Control Panel |
ข้อมูลต่างที่ผู้ใช้ได้กำหนดไว้ในโปรแกรมที่อยู่ใน
Control Panel เช่น ความไวของเมาส์ รูปร่างของเคอร์เซอร์ของตัวชี้, ลักษณะคีย์บอร์ด,
สีของ Desktop, การกำหนดเสียง เป็นต้น |
Accessories |
การกำหนดรายการโปรแกรมใน Accessories |
Third-party Windows NT Application |
รายการโปรแกรมของผู้ใช้ที่ได้ติดตั้งไว้ |
Command Prompt |
รายละเอียดการกำหนดค่าของ DOS-Prompt |
ประเภทของ Profiles
Profiles ที่ใช้ในวินโดวส์เอ็นทีมี
6 ชนิดดังนี้
-
Local Profile
-
Server-based Profile
-
System Default Profile
-
Default User Profile
-
All Users Profile
-
User (User Name) / Personnel Profile
Local Profile
Local Profile จะเก็บไว้ที่ NT
Workstation หรือ NT Server ที่ไม่ได้เป็น PDC/BDC ลักษณะการ Logon ของ NT
Workstation ที่เป็นสมาชิกในโดเมนสามารถ Logon ได้ 2 แบบคือ "Local Logon"
และ "Domain Logon" โดยดูจาก Logon Dialog Box เมื่อกด Ctrl+Alt+Delete จะมีช่อง
"Domain" เพื่อให้ระบุชื่อ Server ที่ต้องการ ปกติจะปรากฎชื่อ Domain
และ ชื่อ Local Server ในกรณีที่เครื่องนี้เป็นสมาชิกของโดเมน
เมื่อ Logon แบบ Local แล้วมีการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อม
ต่อมาทำการ Logoff ออกไป วินโดวส์เอ็นทีจะทำการเก็บข้อมูลสภาวะแวดล้อมไว้ใน
Profile ของผู้ใช้รายนั้น ถ้าเป็นการ Logon ครั้งแรกของผู้ใช้ก็จะนำเอาต้นแบบมาจาก
Default User Profile มาให้โดยนำมาจากแฟ้ม NTUSER.DAT และนำเอาโปรแกรมที่จะปรากฎใน
Common Group มาจาก All Users Profile แล้วจะนำไปเก็บไว้ที่ไดเร็คทอรี่ใหม่ด้วยชื่อของผู้ใช้นั้น
ซึ่งอยู่ใน \WINNT\Profiles เช่น ถ้าผู้ใช้ชื่อ user1 ก็จะเก็บไว้ใน \WINNT\Profiles\user1
โดยที่ภายไต้ไดเร็คทอรี่นี้จะมี่ไดเร็คทอรี่หลายๆไดเร็คทอรี่ดังนี้
-
Application Data : ข้อมูลที่แต่ละ
application ใช้งาน
-
Desktop : ไอคอนของ shortcut ต่างๆที่อยู่บน
Desktop
-
Favorites : เก็บ shortcut ของโปรแกรมต่างๆหรือตำแหน่งสถานที่ที่จดไว้เพื่อสามารถนำกลับไปยังตำแหน่งที่จำไว้ได้
-
NetHood : ข้อมูลของ Network Neighborhood
-
Personnel : เก็บข้อมูลโปรแกรมส่วนตัวของผู้ใช้
-
PrintHood : ข้อมูลของเครื่องพิมพ์ที่สร้างไว้
-
Recent : แฟ้มข้อมูลต่างๆที่เคยเปิดใช้งานไปแล้ว
-
Send To : ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเอกสาร
-
Start Menu โปรแกรมต่างๆบนเมนูเมื่อกดปุ่ม
Start
-
Template : เก็บข้อมูล Template ของแต่ละผู้ใช้
สำหรับไดเร็คทอรี่ NetHood,PrintHood,Recent
และ Template จะเป็นไดเร็คทอรี่ที่ถูกซ่อนไว้ ถ้าต้องการให้มองเห็นจะต้องกำหนด
Option เป็น "Show All File" ที่เมนู Option/View ในโปรแกรม My Computer หรือ
Explorer
Server-based Profiles
ถ้าผู้ใช้ Logon เข้าสู่โดเมนและถูกกำหนดให้ใช้
Server-based Profiles แล้ว Profile ของผู้ใช้รายนั้นจะถูกนำมาจาก Server
และเมื่อมีการปรับแต่งก็จะถูกปรับปรุงเข้าไปเก็บไว้ใน Server ลักษณะเช่นนี้มีข้อดีคือ
-
เป็น Profile ส่วนตัวที่มี Profile
เพียงชุดเดียวที่ส่วนกลางทำให้การบริหารจัดการสะดวก
-
สามารถกำหนดให้เป็น Profile ส่วนตัวหรือใช้ร่วมกันหลายคน
ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้อย่างเดียวและเมื่อปรับแต่งแล้วก็จะไม่มีผลบันทึกกลับไปยัง
Server
(Read Only)
ข้อดีแบบแรกใช้ Profile แบบ Personnel
Profile ส่วนแบบหลัง ใช้ Profile แบบ Mandatory
กรณีของ Personnel profile เมื่อผู้ใช้
Logon เข้าสู่โดเมนก็จะดึงเอา Profile จาก Server มาใช้ หากมีการเปลี่ยนแปลงก็สามารถที่จะปรับปรุงกลับไปที่
Server
กรณีของ Mandatory profile เมื่อผู้ใช้
Logon เข้าสู่โดเมนก็จะดึงเอา Profile จาก Server มาใช้ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะไม่บันทึกกลับไปที่
Server แต่จะมีผลชั่วคราวในเครื่องลูกข่ายเท่านั้น เมื่อ Logon ใหม่ลักษณะต่างๆก็จะยังคงเดิม
การกำหนดให้เป็น Mandatory Profile
นั้นทำได้ง่ายโดยการเปลี่ยนชื่อแฟ้มข้อมูล NTUSER.DAT ในไดเร็คทอรี่ของ User
Profile นั้นให้มีนามสกุลเป็น .MAN
Default User Profile
เป็น Profile เริ่มต้นให้กับผู้ใช้ใหม่ที่ทำการ
Logon เป็นครั้งแรก ซึ่งจะอยู่ในไดเร็คทอรี่ชื่อ \WINNT\Profiles\Default
User จากนั้นเมื่อผู้ใช้ Logoff ออกไป Profile จะถูกเก็บไว้ตามวิธีที่ผู้บริหารระบบกำหนด
ซึ่งอาจเป็น Local Profile หรือ Server-based Profile ก็ได้
วิธีการกำหนด Default Profile
ของโดเมน
เป็นการกำหนด Default Profile ของเครื่อง
NT Workstation และ NT Server ทุกเครื่องภายในโดเมน โดยการก๊อปปี้ Profile
ที่ต้องการไปไว้ในโฟลเดอร์ Default User ของเครื่องทุกเครื่อง
-
Logon ที่ NT Workstation หรือ Server
ธรรมดา แล้วกำหนดสภาพของ Desktop หรือสภาพแวดล้อมต่างๆไว้
-
Logoff ออกไป
-
Logon เข้าสู่โดเมนเป็น Administrator
ที่เครื่องเดิม
-
เปิด User Profile โดยใช้ ไอคอน System
ในคอนโทรลพาเนล จะปรากฎจอภาพดังรูป
-
เลือกรหัสผู้ใช้ที่ใด้ Logon ไว้ในข้อ
1 แล้วคลิก Copy To... จะปรากฎจอภาพดังรูป
-
กดปุ่ม Browse แล้วเลือกไดเร็คทอรี่ที่อยู่ที่เครื่องที่เป็น
PDC ชื่อ Default User แล้วทำการ Copy ไปแทนที่ข้อมูลที่มีอยู่เดิม เช่น ถ้า
Server ของโดเมนชื่อ NT1 ชื่อ Path ที่ Copy ไปจะเป็น \\NT1\WINNT\Profiles\Default
User
-
กำหนด Permitted to use เพื่อเปลี่ยนให้
Profile สามารถใช้ได้กับผู้ใช้ที่ต้องการ
-
ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนครบทุก Workstation
และ Server
System Default Profiles
วินโดวส์เอ็นทีจะใชั System Default
Profiles ในการทำงาน กรณีที่ยังไม่มีผู้ใช้ Logon เข้ามาแบบ Local ได้แก่
ขณะที่เปิดเครื่องไว้แต่ยังไม่มีการ Logon เมื่อเกินกำหนดเวลาที่ตั้งไว้โปรแกรม
Screen Saver จะขึ้นมาทำงาน หรือการแสดง Wall paper ขณะที่กำลังจะ Logon
Windows 95 User Profiles
การกำหนดให้ใช้ User Profile ของ
Windows 95 สามารถกำหนดให้เป็น Personnel Profile แบบ Local เท่านั้น ไม่สามารถกำหนดเป็น
Server-based Profiles ได้ ข้อแตกต่างจาก NT profile คือ ไม่มีการเก็บ Common
Group และชื่อของแฟ้มที่เก็บ Profile จะแตกต่างกัน Windows 95 จะเก็บด้วยชื่อ
USER.DAT, USER.DA0, USER.MAN วิธีการกำหนด User Profile ให้กำหนดที่ ไอคอน
Password ในคอนโทรลพาเนลแล้วเลือกให้แยก Profile ของแต่ละบุคคล ดังรูป
เงื่อนไขการทำงานนี้จะต้องกำหนด Primary
Network Logon เป็น Client for Microsoft Network
การสร้าง User Profile ใหม่
ปกติ Local User Profile
จะถูกสร้างโดยอัตโนมัติเมื่อมีการ Logon แบบ Local โดยการนำเอา Default User
Profile มาเป็นต้นแบบ พร้อมทั้ง Common Group ใน All Users เมื่อผู้ใช้ Logoff
ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ใน Profile ของผู้ใช้ในเครื่องที่เป็น Local นั้น
แต่ถ้ามีการกำหนด Server-Based Profile ไว้ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนำไปเก็บไว้ที่
Server ด้วยเช่นเดียวกัน
การสร้าง Server-based Profile
สามารถทำได้หลายวิธีดังนี้
-
สร้างไดเร็คทอรีที่ต้องการเก็บ Profile
ไว้ใน PDC แล้วกำหนด User Profile Path(ใช้โปรแกรม User Manager for Domain)
ให้ตรงกับชื่อไดเร็คทอรี่ที่สร้าง เมื่อผู้ใช้ Logon เข้ามา Profile จะถูกเก็บไว้ที่ไดเร็คทอรี่นั้น
-
ทำเช่นเดียวกับข้อ 1 แต่เพิ่มการ Copy
เอา Profile ของผู้ใช้อื่นมาเป็นการตั้งต้น
-
ทำเช่นเดียวกับข้อ 2 แต่เปลี่ยนชื่อ
NTUSER.DAT เป็น NTUSER.MAN เพื่อสร้างให้เป็น Mandatory Profile เพื่อป้องกันการแก้ไข
ตัวอย่างการสร้าง Profile แบบที่
3
-
Logon เป็น Administrator ที่ NT Workstation
หรือใช้รหัสผู้ใช้อื่นเพื่อใช้เป็นต้นแบบในการกำหนดสภาพแวดล้อม
-
กำหนดสภาพแวดล้อมที่ต้องการ
-
Logoff ออกจากระบบ
-
Logon เป็น Administrator
-
เรียกโปรแกรม User Manager for Domain
แล้วใช้เมนู User/New User จะปรากฎจอภาพดังรูป
-
ป้อนข้อมูลรหัสผู้ใช้ที่ต้องการแล้วกดปุ่ม
Profile จากนั้นกำหนด User profile path ให้เช่น \\NT1\Profiles\duser1 (สมมติรหัสผู้ใช้ให้ชื่อว่า
duser1) ลักษณะจอภาพเป็นดังรูป
ตอบ OK แล้วกดปุ่ม Add
-
ใช้ My Computer หรือ Explorer ทำการสร้างไดเร็คทอรี่/โฟลเดอร์
duser1 ไว้ภายได้ C:\WINNT\Profiles บนเครื่อง Server ที่กำหนดไว้
-
เปิด User Profile โดยใช้ไอคอน System
ในคอนโทรลพาเนล แล้วเลือกรหัสผู้ใช้ที่เป็นผู้ Logon ข้อ 1 กดปุ่ม Copy To
จะปรากฎจอภาพในการ Copy profile
-
ที่ช่อง "Copy profile to" ป้อนข้อมูลชื่อโฟลเดอร์ที่ต้องการ
Copy ไปเช่น \\NT1\WINNT\Profiles\user
-
ที่ Permitted to user กดปุ่ม Change
แล้วเลือก Show Member และรหัสผู้ใช้ที่ต้องการ เช่น duser1 จากนั้นกดปุ่ม
Add แล้วตอบ OK ซึ่งเป็นการทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ Profile นี้ได้
-
Logoff แล้วทดสอบ Profile ที่สร้างขึ้นใหม่
การลบ User Profile
สามารถลบได้ที่เครื่อง NT Workstation
หรือที่โดเมนเซอร์ฟเวอร์ โดยใช้ไอคอน System ในคอนโทรลพาเนล ที่ User Profiles
Tab เลือกรายการ Profile ที่ต้องการลบแล้วกดปุ่ม Delete
System Policy
นอกจากการกำหนดสภาพแวดล้อมของเครื่องลูกข่ายด้วย
Profile แล้ว วินโดวส์เอ็นทียังสามารถกำหนดรายละเอียดของสภาพแวดล้อมเพิ่มเติมได้อีก
โดยใช้ System Policy ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลของ Registry ของเครื่องลูกข่าย
ตัวอย่างเช่น การควบคุมการใช้ไอคอนภายในคอนโทรลพาเนล ลักษณะสีของ Desktop
หรือ ลักษณะของ Network ต่างๆ การกำหนดสภาพแวดล้อมนี้จะเป็นตัวเสริมการทำงานของ
Profile เพื่อให้สามารถควบคุมได้ละเอียดขึ้น การกำหนดข้อมูลข้างต้นทำได้โดยใช้โปรแกรม
System Policy Editor
ปกติเครื่องลูกข่ายแต่ละเครื่องจะมีฐานข้อมูลสภาพแวดล้อมเก็บไว้ใน
Registry Database ซึ่งเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาฐานข้อมูลเหล่านี้นจะถูกนำมาใช้ในการทำงาน
เมื่อใช้ System Policy จะทำให้เกิดการซ่อน Registry ของเครื่องลูกข่ายไว้ไม่ให้ขึ้นมาทำงานและใชั
Registry ที่เก็บไว้ที่เซอร์ฟเวอร์มาทำงานแทน
เราสามารถใช้ System Policy เพื่อทำให้เกิด
Policy รวมสำหรับโดเมนโดยการสร้าง Policy แล้วตั้งชื่อแฟ้มเป็น NTConfig.Pol
และเก็บไว้ในไดเร็คทอรี่ C:\WINNT\SYSTEM32\REPL\IMPORT\SCRIPTS ซึ่งไดเร็คทอรี่นี้จะถูกแชร์ไว้ด้วย
Share Name ชื่อ Netlogon
การใช้ System Policy Editor
-
เรียกโปรแกรม System Policy Editor
ซึ่งอยู่ในกลุ่ม System Administrator
-
ใช้เมนู File/New Policy จะเห็นไอคอนของ
Default Computer และ Default User ดังรูป
ซึ่งเป็นการกำหนดสภาพแวดล้อมตามเครื่องคอมพิวเตอร์และตามรหัสผู้ใช้ตามลำดับ
หากไม่มีการกำหนดหรือระบุชื่อเครื่องหรือชื่อผู้ใช้ไว้ใน System Policy แล้ว
เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์หรือผู้ใช้ที่ Logon เข้ามาก็จะถูกกำหนดตาม Default
Computer และ Default User ตามลำดับ
ลักษณะของจอภาพการกำหนด Default
User เป็นดังรูป
รายละเอียดการกำหนด Policy ของ Default
User มีดังนี้
-
Control Panel ใช้ในการกำหนดไอคอนในคอนโทรลพาเนลที่ยินยอมให้ใช้ได้
-
Desktop ใช้ในการกำหนดลักษณะของ Desktop
เช่น Wallpaper, ลักษณะของสีบน Desktop เป็นต้น
-
Shell ใช้กำหนดว่าให้ซ่อนเมนูอะไรบ้างบนปุ่ม
Start
-
System กำหนดการใช้ Registry Editor
และการอนุญาตการใช้โปรแกรม
ลักษณะของจอภาพการกำหนด Default Computer
เป็นดังรูป
รายละเอียดการกำหนด Policy ของ Default
Computer มีดังนี้
-
Network กำหนดวิธีการปรับปรุงข้อมูล
Registry ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์
-
System กำหนดการทำงานของโปรโตคอล SNMP
และการรันโปรแกรม
-
Windows NT System กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการ
Logon และระบบ File System เช่นกำหนด Logon Banner ให้แสดงขึ้นมาก่อนที่จะทำการ
Logon, การ Enable/Disable ปุ่ม Shutdown บน Logon Dialog Box
-
Windows NT Network กำหนดการสร้าง Hidden
Share ของ Drive ซึ่งใช้ในการช่วยงานแก่ Administratror ได้แก่ Share Name
ที่มีเครื่องหมาย $ ต่อท้าย เช่น C$ แทนไดรว์ C
-
Windows NT Printer กำหนด Priority
ของเครื่องพิมพ์
-
Windows NT Remote Access กำหนดการเชื่อมต่อจากเครื่องลูกข่ายจากภายนอกผ่านโมเด็ม
เช่นกำหนดระยะเวลาที่เชื่อมต่อได้สูงสุดเป็นนาที/ครั้ง หรือกำหนดจำนวนการ
Logon ในการเชื่อมต่อสูงสุดกี่ครั้งก่อนที่จะตัดการเชื่อมต่อ
-
Windows NT Shell กำหนดที่ที่จะใชัเก็บโปรแกรม,
Desktop Start Menu และ Start Up ซึ่งเป็นโปรแกรที่ใช้ร่วมกัน
-
Windows NT User Profiles กำหนดการจัดการของ
User Profile เช่น การลบ Local Cached Profile ที่ถูกสร้างขึ้นที่เครื่องลูกข่ายด้วยถึงแม้ว่าจะกำหนดเป็น
Server Based Profile ก็ตาม
-
เมื่อทำการปรับแต่งรายการต่างๆตามความต้องการแล้ว
ถ้าต้องการให้รายการที่ปรับแต่งกลายเป็น Policy ของเครื่องทุกเครื่องเมื่อ
Logon เข้ามาในโดเมนจะต้องเก็บ Policy ไว้ในชื่อแฟ้ม NTConfig.Pol และเก็บไว้ที่
C:\WINNT\SYSTEM32\REPL\IMPORT\SCRIPTS
อนึ่งกรณีที่ต้องการปรับแต่ง Policy
ของเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง สามารถทำได้โดยวิธีการดังนี้
-
กรณีปรับแต่งที่เครื่องนั้นโดยตรง ใช้เมนู
File/Open Registry
-
กรณีปรับแต่งผ่านเครือข่าย ใช้เมนู
Connect แล้วตามด้วยชื่อเครื่องที่ต้องการปรับแต่ง ในกรณีนี้เครื่องที่ต้องการถูกปรับแต่งจะต้องเปิดเครื่องไว้ด้วย
Logon Script
Logon Script มีวิธีการทำงานแบบเดียวกับการทำงานของ
Batch File ใน DOS โดยที่เมื่อผู้ใช้ Logon ผ่านโดเมนเข้ามา และผู้ใช้นั้นได้กำหนดชื่อแฟ้ม
Logon Script ไว้แล้ว วินโดวส์เอ็นทีก็จะนำเอา Script นั้นมาทำงาน ประโยชน์ของ
Logon Script ได้แก่
-
การกำหนดไดรว์ของ NT Server ให้กับเครื่องลูกข่ายโดยอัตโนมัติเมื่อ
Logon เสร็จ
-
ต้องการกำหนดเครื่องพิมพ์เครือข่ายให้กับเครื่องลูกข่าย
-
ต้องการให้เริ่มโปรแกรมที่ต้องการทำงานโดยอัตโนมัติ
-
ต้องการให้เครื่องลูกข่ายใช้ Logon
Script เดียวกันเพื่อความสะดวกในการจัดการ
การกำหนด Logon Script ให้กับผู้ใชั
กำหนดโดยใช้โปรแกรม User Manager
for Domain แล้วเปิดจอภาพ Profile ของผู้ใช้นั้นๆซึ่งมีลักษณะดังรูป
เติมชื่อ Logon Script เข้าไปในช่อง
"Logon Script Name" โดยไม่ต้องระบุ Path เนื่องจากแฟ้มนี้จะต้องเก็บไว้ใน
Share Name ชื่อ Netlogon ซึ่งก็จะตรงกับ Path ชื่อ C:\WINNT\SYSTEM32\REPL\IMPORT\SCRIPTS
โดยที่ Logon Script จะเขียนได้สองแบบ คือ ชนิดที่เป็น DOS Batch File (มีนามสกุลเป็น
.BAT) ชนิดที่สองคือ Windows NT Command File (มีนามสกุลเป็น .CMD) คำสั่งใน
Logon Script จะเป็นคำสั่งอะไรก็ได้ที่มีความสามารถทำงานใน Batch File ปกติ
คำสั่งที่สำคัญได้แก่
-
คำสั่ง NET เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับจัดการทรัพยากรเครือข่ายทั้งไดเร็คทอรี่และเครื่องพิมพ์
เช่นการ Map Network Drive หรือ เครื่องพิมพ์ ตัวอย่างคำสั่ง
ใช้สำหรับ Map Network Drive โดยใช้
Share Name ชื่อ Share1ที่เครื่องเซอร์ฟเวอร์ NT1 ให้มาเป็น Local Driver
F:
คำสั่งต่างๆใน Logon Script ยังสามารถเรียกใช้ตัวแปรสภาพแวดล้อมของวินโดวส์เอ็นที(System
Variable) ซึ่งวินโดวส์เอ็นทีจะสร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกในการทำงาน
โดยที่ตัวแปรเหล่านี้เมื่อเราเขียนไว้ใน Logon Script จะถูกแทนค่าโดยวินโดวส์เอ็นทีให้ขณะที่ผู้ใช้ทำการ
Logon เช่น การนำเอารหัสผู้ใช้ที่ Logon มาไว้ในตัวแปร %USERNAME% เป็นต้น
ตารางต่อไปนี้แสดงชื่อตัวแปรสภาพแวดล้อมของวินโดวส์เอ็นที
ชื่อตัวแปร
|
ความหมาย
|
%HOMEDRIVE% |
ไดรว์ที่กำหนดให้เริ่มต้น |
%HOMEPATH% |
ไดเร็คทอรี่ที่กำหนดให้เริ่มต้น |
%HOMESHARE% |
ชื่อ Share Name ที่ถูกกำหนดให้เริ่มต้น |
%OS% |
ชื่อระบบปฎิบัติการที่เป็นของเครื่องที่
logon |
%PROCESSOR_ARCHITECTURE% |
ประเภทของ Processor ของเครื่องที่
Logon |
%USER_DOMAIN% |
ชื่อโดเมน |
%USERNAME% |
รหัสชื่อผู้ใช้ |
การกำหนดตัวแปรสภาพแวดล้อมอื่นๆ
ปกติการกำหนดตัวแปรสภาพแวดล้อมมี
3 ระดับคือ
-
System Environment Variable
-
User Environment Variable
-
ตัวแปรที่กำหนดโดยใช้ Autoexec.bat
การกำหนด System Environment อื่นๆและ
User Environment ทำได้โดยใช้ไอคอน System ในคอนโทรลพาเนล ใน Tab "Environment"
ดังรูป
ลำดับการกำหนดตัวแปรทั้งสามประเภทเป็นตามลำดับตามรายการข้างต้นคือ
System,User,ตัวแปรใน Autoexec.bat ในกรณีที่ตัวแปรซ้ำกัน วินโดวส์เอ็นทีจะทำงานดังนี้
User Variable จะปิดทับ System Variable แต่ Variable ใน Autoexec.Bat จะไม่ปิดทับตัวแปรใน
User Variable
BACK
Chapter 1/ Chapter 2 /Chapter
3 / Chapter 4 / Chapter 5 / Chapter
6 / Chapter 7 / Chapter
8 / Chapter 9
NEXT
Chapter 10
/ Chapter 11 / Reference