บทที่ 5
การจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานสำหรับผู้ใช้งาน
(Manage User Profiles, Logon Scripts, and Environment Variables)

สภาพแวดล้อมในการทำงานของเครื่องลูกข่าย
ในระบบเครือข่ายแบบโดเมนนั้น เราสามารถจัดการสภาพแวดล้อมในการทำงานของเครื่องลูกข่ายในเรื่องต่างๆ เพื่อความสะดวกในการทำงานของผู้ใช้ดังนี้

ระบบปฎิบัติการบางชนิด เช่น ยูนิกซ์,เน็ตแวร์ เมื่อผู้ใช้ Logon เข้าสู่ระบบก็จะมี Logon Script ช่วยกำหนดสภาพแวดล้อมให้ก็เพียงพอแล้วเพราะการติดต่อกับผู้ใช้เป็นแบบ Text ที่ไม่ค่อยซับซ้อน ต่างกับวินโดวส์เอ็นทีที่มีการติดต่อกับผู้ใช้แบบกราฟฟิค ทำให้การจัดสภาพแวดล้อมของเครื่องลูกข่ายจำเป็นต้องสร้างระบบเพิ่มขึ้น ผู้ออกแบบวินโดวส์เอ็นทีได้ออกแบบ "Profile" เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อมของเครื่องลูกข่ายไว้

อย่างไรก็ตาม Profile ของวินโดวส์เอ็นทีนั้นจะมีประโยชน์กับเครื่องลูกข่ายที่เป็น NT Workstation เท่านั้น ส่วนเครื่องลูกข่ายที่เป็น DOS, Windows 3.11, Windows for Workgroup 3.11 จะไม่มีผลต่อเครื่องเหล่านี้ ส่วน Windows 95 นั้นจะต้องมีการกำหนดเพิ่มเติมเพื่อให้ใช้งานได้

รายการ Profile ที่ระบบจะต้องเก็บไว้ได้แก่

ประเภทของ Profiles
Profiles ที่ใช้ในวินโดวส์เอ็นทีมี 6 ชนิดดังนี้ Local Profile
Local Profile จะเก็บไว้ที่ NT Workstation หรือ NT Server ที่ไม่ได้เป็น PDC/BDC ลักษณะการ Logon ของ NT Workstation ที่เป็นสมาชิกในโดเมนสามารถ Logon ได้ 2 แบบคือ "Local Logon" และ "Domain Logon" โดยดูจาก Logon Dialog Box เมื่อกด Ctrl+Alt+Delete จะมีช่อง "Domain" เพื่อให้ระบุชื่อ Server ที่ต้องการ  ปกติจะปรากฎชื่อ Domain และ ชื่อ Local Server ในกรณีที่เครื่องนี้เป็นสมาชิกของโดเมน

เมื่อ Logon แบบ Local แล้วมีการเปลี่ยนแปลงสภาวะแวดล้อม ต่อมาทำการ Logoff ออกไป วินโดวส์เอ็นทีจะทำการเก็บข้อมูลสภาวะแวดล้อมไว้ใน Profile ของผู้ใช้รายนั้น ถ้าเป็นการ Logon ครั้งแรกของผู้ใช้ก็จะนำเอาต้นแบบมาจาก Default User Profile มาให้โดยนำมาจากแฟ้ม NTUSER.DAT และนำเอาโปรแกรมที่จะปรากฎใน Common Group มาจาก All Users Profile แล้วจะนำไปเก็บไว้ที่ไดเร็คทอรี่ใหม่ด้วยชื่อของผู้ใช้นั้น ซึ่งอยู่ใน \WINNT\Profiles เช่น ถ้าผู้ใช้ชื่อ user1 ก็จะเก็บไว้ใน \WINNT\Profiles\user1 โดยที่ภายไต้ไดเร็คทอรี่นี้จะมี่ไดเร็คทอรี่หลายๆไดเร็คทอรี่ดังนี้

สำหรับไดเร็คทอรี่ NetHood,PrintHood,Recent และ Template จะเป็นไดเร็คทอรี่ที่ถูกซ่อนไว้ ถ้าต้องการให้มองเห็นจะต้องกำหนด Option เป็น "Show All File" ที่เมนู Option/View ในโปรแกรม My Computer หรือ Explorer

Server-based Profiles
ถ้าผู้ใช้ Logon เข้าสู่โดเมนและถูกกำหนดให้ใช้ Server-based Profiles แล้ว Profile ของผู้ใช้รายนั้นจะถูกนำมาจาก Server และเมื่อมีการปรับแต่งก็จะถูกปรับปรุงเข้าไปเก็บไว้ใน Server ลักษณะเช่นนี้มีข้อดีคือ

ข้อดีแบบแรกใช้ Profile แบบ Personnel Profile ส่วนแบบหลัง ใช้ Profile แบบ Mandatory Default User Profile
เป็น Profile เริ่มต้นให้กับผู้ใช้ใหม่ที่ทำการ Logon เป็นครั้งแรก ซึ่งจะอยู่ในไดเร็คทอรี่ชื่อ \WINNT\Profiles\Default User จากนั้นเมื่อผู้ใช้ Logoff ออกไป Profile จะถูกเก็บไว้ตามวิธีที่ผู้บริหารระบบกำหนด ซึ่งอาจเป็น Local Profile หรือ Server-based Profile ก็ได้

วิธีการกำหนด Default Profile ของโดเมน
เป็นการกำหนด Default Profile ของเครื่อง NT Workstation และ NT Server ทุกเครื่องภายในโดเมน โดยการก๊อปปี้ Profile ที่ต้องการไปไว้ในโฟลเดอร์ Default User ของเครื่องทุกเครื่อง

  1. Logon ที่ NT Workstation หรือ Server ธรรมดา แล้วกำหนดสภาพของ Desktop หรือสภาพแวดล้อมต่างๆไว้
  2. Logoff ออกไป
  3. Logon เข้าสู่โดเมนเป็น Administrator ที่เครื่องเดิม
  4. เปิด User Profile โดยใช้ ไอคอน System ในคอนโทรลพาเนล จะปรากฎจอภาพดังรูป
  5. เลือกรหัสผู้ใช้ที่ใด้ Logon ไว้ในข้อ 1 แล้วคลิก Copy To... จะปรากฎจอภาพดังรูป
  6. กดปุ่ม Browse แล้วเลือกไดเร็คทอรี่ที่อยู่ที่เครื่องที่เป็น PDC ชื่อ Default User แล้วทำการ Copy ไปแทนที่ข้อมูลที่มีอยู่เดิม เช่น ถ้า Server ของโดเมนชื่อ NT1 ชื่อ Path ที่ Copy ไปจะเป็น \\NT1\WINNT\Profiles\Default User
  7. กำหนด Permitted to use เพื่อเปลี่ยนให้ Profile สามารถใช้ได้กับผู้ใช้ที่ต้องการ
  8. ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนครบทุก Workstation และ Server
System Default Profiles
วินโดวส์เอ็นทีจะใชั System Default Profiles ในการทำงาน กรณีที่ยังไม่มีผู้ใช้ Logon เข้ามาแบบ Local ได้แก่ ขณะที่เปิดเครื่องไว้แต่ยังไม่มีการ Logon เมื่อเกินกำหนดเวลาที่ตั้งไว้โปรแกรม Screen Saver จะขึ้นมาทำงาน หรือการแสดง Wall paper ขณะที่กำลังจะ Logon

Windows 95 User Profiles
การกำหนดให้ใช้ User Profile ของ Windows 95 สามารถกำหนดให้เป็น Personnel Profile แบบ Local เท่านั้น ไม่สามารถกำหนดเป็น Server-based Profiles ได้ ข้อแตกต่างจาก NT profile คือ ไม่มีการเก็บ Common Group และชื่อของแฟ้มที่เก็บ Profile จะแตกต่างกัน Windows 95 จะเก็บด้วยชื่อ USER.DAT, USER.DA0, USER.MAN วิธีการกำหนด User Profile ให้กำหนดที่ ไอคอน Password ในคอนโทรลพาเนลแล้วเลือกให้แยก Profile ของแต่ละบุคคล ดังรูป

เงื่อนไขการทำงานนี้จะต้องกำหนด Primary Network Logon เป็น Client for Microsoft Network

การสร้าง User Profile ใหม่
 ปกติ Local User Profile  จะถูกสร้างโดยอัตโนมัติเมื่อมีการ Logon แบบ Local โดยการนำเอา Default User Profile มาเป็นต้นแบบ พร้อมทั้ง Common Group ใน All Users เมื่อผู้ใช้ Logoff ข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ใน Profile ของผู้ใช้ในเครื่องที่เป็น Local นั้น แต่ถ้ามีการกำหนด Server-Based Profile ไว้ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกนำไปเก็บไว้ที่ Server ด้วยเช่นเดียวกัน

การสร้าง Server-based Profile สามารถทำได้หลายวิธีดังนี้

  1. สร้างไดเร็คทอรีที่ต้องการเก็บ Profile ไว้ใน PDC แล้วกำหนด User Profile Path(ใช้โปรแกรม User Manager for Domain) ให้ตรงกับชื่อไดเร็คทอรี่ที่สร้าง เมื่อผู้ใช้ Logon เข้ามา Profile จะถูกเก็บไว้ที่ไดเร็คทอรี่นั้น
  2. ทำเช่นเดียวกับข้อ 1 แต่เพิ่มการ Copy เอา Profile ของผู้ใช้อื่นมาเป็นการตั้งต้น
  3. ทำเช่นเดียวกับข้อ 2 แต่เปลี่ยนชื่อ NTUSER.DAT เป็น NTUSER.MAN เพื่อสร้างให้เป็น Mandatory Profile เพื่อป้องกันการแก้ไข
ตัวอย่างการสร้าง Profile แบบที่ 3
  1. Logon เป็น Administrator ที่ NT Workstation หรือใช้รหัสผู้ใช้อื่นเพื่อใช้เป็นต้นแบบในการกำหนดสภาพแวดล้อม
  2. กำหนดสภาพแวดล้อมที่ต้องการ
  3. Logoff ออกจากระบบ
  4. Logon เป็น Administrator
  5. เรียกโปรแกรม User Manager for Domain แล้วใช้เมนู User/New User จะปรากฎจอภาพดังรูป
  6. ป้อนข้อมูลรหัสผู้ใช้ที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Profile จากนั้นกำหนด User profile path ให้เช่น \\NT1\Profiles\duser1 (สมมติรหัสผู้ใช้ให้ชื่อว่า duser1) ลักษณะจอภาพเป็นดังรูป
  7. ตอบ OK แล้วกดปุ่ม Add
  8. ใช้ My Computer หรือ Explorer ทำการสร้างไดเร็คทอรี่/โฟลเดอร์ duser1 ไว้ภายได้ C:\WINNT\Profiles บนเครื่อง Server ที่กำหนดไว้
  9. เปิด User Profile โดยใช้ไอคอน System ในคอนโทรลพาเนล แล้วเลือกรหัสผู้ใช้ที่เป็นผู้ Logon ข้อ 1 กดปุ่ม Copy To จะปรากฎจอภาพในการ Copy profile
  10. ที่ช่อง "Copy profile to" ป้อนข้อมูลชื่อโฟลเดอร์ที่ต้องการ Copy ไปเช่น \\NT1\WINNT\Profiles\user
  11. ที่ Permitted to user กดปุ่ม Change แล้วเลือก Show Member และรหัสผู้ใช้ที่ต้องการ เช่น duser1 จากนั้นกดปุ่ม Add แล้วตอบ OK ซึ่งเป็นการทำให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ Profile นี้ได้
  12. Logoff แล้วทดสอบ Profile ที่สร้างขึ้นใหม่
การลบ User Profile
สามารถลบได้ที่เครื่อง NT Workstation หรือที่โดเมนเซอร์ฟเวอร์ โดยใช้ไอคอน System ในคอนโทรลพาเนล ที่ User Profiles Tab เลือกรายการ Profile ที่ต้องการลบแล้วกดปุ่ม Delete

System Policy
นอกจากการกำหนดสภาพแวดล้อมของเครื่องลูกข่ายด้วย Profile แล้ว วินโดวส์เอ็นทียังสามารถกำหนดรายละเอียดของสภาพแวดล้อมเพิ่มเติมได้อีก โดยใช้ System Policy ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลของ Registry ของเครื่องลูกข่าย ตัวอย่างเช่น การควบคุมการใช้ไอคอนภายในคอนโทรลพาเนล ลักษณะสีของ Desktop หรือ ลักษณะของ Network ต่างๆ การกำหนดสภาพแวดล้อมนี้จะเป็นตัวเสริมการทำงานของ Profile เพื่อให้สามารถควบคุมได้ละเอียดขึ้น การกำหนดข้อมูลข้างต้นทำได้โดยใช้โปรแกรม System Policy Editor

ปกติเครื่องลูกข่ายแต่ละเครื่องจะมีฐานข้อมูลสภาพแวดล้อมเก็บไว้ใน Registry Database ซึ่งเมื่อเปิดเครื่องขึ้นมาฐานข้อมูลเหล่านี้นจะถูกนำมาใช้ในการทำงาน เมื่อใช้ System Policy จะทำให้เกิดการซ่อน Registry ของเครื่องลูกข่ายไว้ไม่ให้ขึ้นมาทำงานและใชั Registry ที่เก็บไว้ที่เซอร์ฟเวอร์มาทำงานแทน

เราสามารถใช้ System Policy เพื่อทำให้เกิด Policy รวมสำหรับโดเมนโดยการสร้าง Policy แล้วตั้งชื่อแฟ้มเป็น NTConfig.Pol และเก็บไว้ในไดเร็คทอรี่ C:\WINNT\SYSTEM32\REPL\IMPORT\SCRIPTS ซึ่งไดเร็คทอรี่นี้จะถูกแชร์ไว้ด้วย Share Name ชื่อ Netlogon

การใช้ System Policy Editor

  1. เรียกโปรแกรม System Policy Editor ซึ่งอยู่ในกลุ่ม System Administrator
  2. ใช้เมนู File/New Policy จะเห็นไอคอนของ Default Computer และ Default User ดังรูป
  3. ซึ่งเป็นการกำหนดสภาพแวดล้อมตามเครื่องคอมพิวเตอร์และตามรหัสผู้ใช้ตามลำดับ หากไม่มีการกำหนดหรือระบุชื่อเครื่องหรือชื่อผู้ใช้ไว้ใน System Policy แล้ว เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์หรือผู้ใช้ที่ Logon เข้ามาก็จะถูกกำหนดตาม Default Computer และ Default User ตามลำดับ

    ลักษณะของจอภาพการกำหนด Default User เป็นดังรูป

    รายละเอียดการกำหนด Policy ของ Default User มีดังนี้
    ลักษณะของจอภาพการกำหนด Default Computer เป็นดังรูป
    รายละเอียดการกำหนด Policy ของ Default Computer มีดังนี้
  1. เมื่อทำการปรับแต่งรายการต่างๆตามความต้องการแล้ว ถ้าต้องการให้รายการที่ปรับแต่งกลายเป็น Policy ของเครื่องทุกเครื่องเมื่อ Logon เข้ามาในโดเมนจะต้องเก็บ Policy ไว้ในชื่อแฟ้ม NTConfig.Pol และเก็บไว้ที่ C:\WINNT\SYSTEM32\REPL\IMPORT\SCRIPTS
อนึ่งกรณีที่ต้องการปรับแต่ง Policy ของเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง สามารถทำได้โดยวิธีการดังนี้ Logon Script
Logon Script มีวิธีการทำงานแบบเดียวกับการทำงานของ Batch File ใน DOS โดยที่เมื่อผู้ใช้ Logon ผ่านโดเมนเข้ามา และผู้ใช้นั้นได้กำหนดชื่อแฟ้ม Logon Script ไว้แล้ว วินโดวส์เอ็นทีก็จะนำเอา Script นั้นมาทำงาน ประโยชน์ของ Logon Script ได้แก่ การกำหนด Logon Script ให้กับผู้ใชั
กำหนดโดยใช้โปรแกรม User Manager for Domain แล้วเปิดจอภาพ Profile ของผู้ใช้นั้นๆซึ่งมีลักษณะดังรูป
เติมชื่อ Logon Script เข้าไปในช่อง "Logon Script Name" โดยไม่ต้องระบุ Path เนื่องจากแฟ้มนี้จะต้องเก็บไว้ใน Share Name ชื่อ Netlogon ซึ่งก็จะตรงกับ Path ชื่อ C:\WINNT\SYSTEM32\REPL\IMPORT\SCRIPTS โดยที่ Logon Script จะเขียนได้สองแบบ คือ ชนิดที่เป็น DOS Batch File (มีนามสกุลเป็น .BAT) ชนิดที่สองคือ Windows NT Command File (มีนามสกุลเป็น .CMD) คำสั่งใน Logon Script จะเป็นคำสั่งอะไรก็ได้ที่มีความสามารถทำงานใน Batch File ปกติ คำสั่งที่สำคัญได้แก่ คำสั่งต่างๆใน Logon Script ยังสามารถเรียกใช้ตัวแปรสภาพแวดล้อมของวินโดวส์เอ็นที(System Variable) ซึ่งวินโดวส์เอ็นทีจะสร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกในการทำงาน โดยที่ตัวแปรเหล่านี้เมื่อเราเขียนไว้ใน Logon Script จะถูกแทนค่าโดยวินโดวส์เอ็นทีให้ขณะที่ผู้ใช้ทำการ Logon เช่น การนำเอารหัสผู้ใช้ที่ Logon มาไว้ในตัวแปร %USERNAME% เป็นต้น

ตารางต่อไปนี้แสดงชื่อตัวแปรสภาพแวดล้อมของวินโดวส์เอ็นที
 

ชื่อตัวแปร
ความหมาย
%HOMEDRIVE% ไดรว์ที่กำหนดให้เริ่มต้น
%HOMEPATH% ไดเร็คทอรี่ที่กำหนดให้เริ่มต้น
%HOMESHARE% ชื่อ Share Name ที่ถูกกำหนดให้เริ่มต้น
%OS% ชื่อระบบปฎิบัติการที่เป็นของเครื่องที่ logon
%PROCESSOR_ARCHITECTURE% ประเภทของ Processor ของเครื่องที่ Logon
%USER_DOMAIN% ชื่อโดเมน
%USERNAME% รหัสชื่อผู้ใช้
การกำหนดตัวแปรสภาพแวดล้อมอื่นๆ
ปกติการกำหนดตัวแปรสภาพแวดล้อมมี 3  ระดับคือ การกำหนด System Environment อื่นๆและ User Environment ทำได้โดยใช้ไอคอน System ในคอนโทรลพาเนล ใน Tab "Environment"  ดังรูป
ลำดับการกำหนดตัวแปรทั้งสามประเภทเป็นตามลำดับตามรายการข้างต้นคือ System,User,ตัวแปรใน Autoexec.bat  ในกรณีที่ตัวแปรซ้ำกัน วินโดวส์เอ็นทีจะทำงานดังนี้  User Variable จะปิดทับ System Variable แต่ Variable ใน Autoexec.Bat จะไม่ปิดทับตัวแปรใน User Variable

BACK  Chapter 1/ Chapter 2 /Chapter 3 / Chapter 4 / Chapter 5 / Chapter 6 / Chapter 7 / Chapter 8 / Chapter 9  NEXT
Chapter 10 / Chapter 11 / Reference