-=Jfk=-

Old Friend

เพื่อนเก่า ที่เคยรับใช้และจากกันไปซะแล้ว

เพื่อนเก่า ที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุขลุยมาด้วยกัน

ภาพที่เอามาแสกน เป็นภาพเก่าๆ ค้นมาจากอัลบั้มเก่าๆ หารูปรถ อย่างเดียวไม่ได้ เลยต้องแถมนายแบบ นางแบบคู่รถ ในVersion เอ๊าะๆ ติดมาด้วย อิอิ

ภาพเก่ามากเบลอไปเยอะ ต้องมาแต่งแสงและสีใหม่ ทำให้ความคมชัด หายไป มาก และ สไตล์ การแต่งรถเชยๆ ตามยุค ของมัน :)

ประสบการณ์ที่ได้มา อาจจะมีประโยชน์สำหรับคนที่จะเล่นรถรุ่น ต่างๆ ข้างล่างนี้ หรือ ของบริษัทเหล่านี้ ไว้ประกอบการพิจารณา ตัดสินใจต่อไป

 

Masda 323 1.5 Hatchback

คันนี้เป็นรถ คันแรกในชีวิตที่เป็นชื่อของตัวเอง ใช้ตั้งแต่ตอนเรียนปีหก เมื่อยี่สิบปี่ที่แล้ว จริงๆ แล้ว เป็นรถที่เหมาะกับ ผู้หญิงมากกว่า แต่ตอนนั้น ไม่รู้ทำไมถึงเลือกคันนี้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นกำลังนิยม รถ hatchback หรือ liftback

แต่ใช้ แล้วก้อชอบครับ ไม่มีปัญหาอะไร ใช้มาได้เกือบสองปี จนมาเจอมอเตอร์ไซค์ตัดหน้าหลบ แล้ว ตกถนน ตีลังกาสองตลบเละทั้งคัน หลังจากซ่อม แล้วศูนย์ล้อเสียกินยางมาก จึงขายทิ้งไป ในที่สุด

 

Corolla 1.5 GL

คันนี้เป็นคันที่สอง ที่เข้ามารับช่วง ต่อ จาก 323 คันแรก เป็น รถขับเคลื่อนล้อหน้า ตัวแรก ของ Toyota ที่นำเข้ามาขายในไทย ใช้ง่าย ใช้ดี ไม่มีจุกจิก กวนใจ ตามสไตล์ ของโตโยต้า เค้าล่ะ

สังเกตุดู รถคันนี้ จะแต่งสติคเกอร์ แบบ Rally ตามสมัยนิยมเมื่อเกือบ ยี่สิบปีที่แล้ว ลงมือ ตัด และติด ด้วยมือตัวเองทั้งหมด คันนี้ไม่มีประวัติโชกโชนอะไรให้อ้างอิงถึง ใช้อยู่ประมาณสองปี ก็ปลดระวาง ไปตามวาระ

 

Citroen Bx Sport

รถจากฝรั่งเศษคันนี้ ออกมาตอนจะไปฮันนี่มูน เมื่อราวๆ สิบห้าปีที่แล้ว จริงๆ ตอนไปที่โชว์รูม ตั้งใจจะไปซื้อ เปอร์โยต์ 305 รถยอดนิยม ขายดีในช่วงนั้น มาแทนโตโยต้าคันข้างบน แต่เดินอยู่ในโชว์รูม ของยนตรกิจ ที่สุรวงษ์ แล้ว ปิ๊งคันนี้ซึ่ง มาในชุดแต่ง พร้อมสปอยเล่อร์ ครบชุดทั้งคันจากโรงงาน ทำให้ตัดสินใจ เลือกคันนี้แทน อาจจะเป็นเพราะว่าหุ่นอันบาดใจ บาดตาของมันมั้ง

ทั้งๆที่ตอนตัดสินใจซื้อ นี่ใจกลัว ชื่อเสียงของ ซีตรอง ที่ขึ้นชื่อ ลือชาจนมีคนกล่าวกันว่า

"โจรปล้น ยังเหลือบ้าน ไฟไหม้ยังเหลือที่ เล่นซีตรอง หมดทั้งบ้าน หมดทั้งที่ ไม่มีเหลือ"

แต่การใช้งานจริง กลับไม่จุกจิกเท่าที่ควร เคยตกหลุม ทำให้ถังน้ำมันรั่ว(ถังน้ำมันเป็นพลาสติค) นอกจากนั้น ไม่มีปัญหาอื่นจุกจิกกวนใจ นอกจากความหงุดหงิด กับ ศูนย์บริการของยนตรกิจ

เป็นรถที่ขับสนุกอัตราเร่งดี โชคอัพมีระบบกันยกกันยุบ ไม่ยวบยาบเหมือนซีตรองรุ่นพี่ ทำให้ขับได้ Feeling เหมือนรถญี่ปุ่นมากกว่า

ตลอดเวลาที่ใช้อยู่ปีกว่า ๆ จนปลดระวางออกไป ไม่มีปัญหาเรื่องระบบไฮโดรนิวเมติค ที่หลายคนกลัวกัน หรือปัญหา จุกจิกกวนใจอื่นๆ

ทุกวันนี้ ยังมาถามตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่าทำไมถึงขายมันออกไป หว่า ทั้งๆที่มันเป็นรถที่ถูกใจคันนึง คำตอบที่นึกได้ ตอนนี้มีแค่ เบื่อ บริการของยนตรกิจ

 

Corona EFI 2000 CC

คันนี้ ถ้าจำไม่ผิด เป็นรถหัวฉีด รุ่นแรกของ โตโยต้าที่ผลิดในประเทศไทย จัดเปิดตัวที่ รร.เซ็นทรัลพลาซ่า เป็นงานใหญ่ในยุคนั้น โชว์เทคโนโลยี่ ที่ว่ากันว่าทันสมัยมากๆๆๆๆ ในสมัยนั้น จากที่ไปดูเฉยๆ เลยไม่รู้ตัวว่า เดินไปเข้าแถวต่อคิวจองกับ เค้าทำไม :)

รถคันนี้ไม่มี ABS เครื่องแรงมาก(ตามความรู้สึกในสมัยนั้น) ความเร็ว เคยทำได้แถวๆสองร้อย ระบบเบรค แม้จะไม่มี ABS แต่ก็ทำงานได้อย่างดี การทรงตัวดี ขับสนุก (สำหรับยุคนั้นเช่นกัน)

คันนี้ขับได้ไม่ถึงปี เจอคู่ปรับเก่ามอร์เตอร์ไซค์ ไม่มีไฟท้าย โผล่มาจากข้างทางตอนกลางคืน ขณะที่ทำความเร็วแถวๆ ประมาณ 140 หลังจากหักหลบ รถเลื้อยสองสามรอบ ก่อนฟาดเข้ากับ ต้นมะขามเทศข้างทาง

เข้าไปนอนในอู่ซ่อม เกือบสี่เดือน จ่ายค่าซ่อมไปสามแสนกว่าบาท(ไม่มีประกัน) แล้ว พอเสร็จออกมาขับได้อีกไม่นาน ความรู้สึกดีๆ ที่เคยได้จากมันหายไปหมดเลยต้องขายไป

 

Honda Accord 2000

Accord ตาเพชร รุ่นแรก เป็นHonda คันแรก ที่ซื้อ มาแทน โคโรน่า ตัวเก่า ตามกระแส Honda Fever ในยุคนั้น เครื่องยนต์หัวฉีด 2000 CC เท่ากับ โคโรน่าคันเดิม ความรู้สึกในการใช้งานใกล้เคียงกัน

รถคันนี้ โดนจับโหลด ลงมาสองนิ้วครึ่งโดยการตัดสปริงเก่า และใส่ล้อ BBS 15 นิ้วเข้าไปแทนของเดิม ผลที่ได้คือสวย แต่ได้ความกระด้าง เพิ่มเข้ามา พร้อมกับเสียงก๊อกแก๊กเวลาตกหลุม (ไม่แนะนำให้ตัดสปริงเพื่อการโหลดรถ ถ้าอยากทำเปลี่ยนชุดแต่งดีกว่า)

หลังจาก ทนรำคาญกับมัน ต่อไปไม่ไหว ก็ปลดระวางออกไป เมื่ออายุได้สองปี

 

Honda Prelude 2.2 SOHC

---

ขุนแผมญี่ปุ่นคันนี้เป็นอีกคันที่ หลวมตัวไปต่อคิวจอง กับเค้า ในงาน มอร์เตอร์โชว์ และเปิดตัวรถรุ่นนี้ ที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว เป็นรถรถล็อตแรก ที่เข้ามายี่สิบคันแรกของฮอนด้าคาร์ เป็นรถที่ขับแล้วประทับใจในสมรรถนะ และการทรงตัว และความสวยงาม ที่หาตัวประกบยาก(ในยุคเกือบสิบปีก่อน นะ) เคยอัดได้เต็มที่ 218 km/hr ให้ความรู้สึกดีกว่า แอคคอร์ดที่ใช้คู่มาด้วยกัน เยอะมาก

รูปข้างบนเป็นรูปที่ถ่าย วันออกรถ แต่น่าเสียดาย ที่หลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือน แฟน ผมขับรถคันนี้ หลบหลุมที่ถนน แล้วแฉลบ (รถไม่มีABS) ตกถนน ด้วยความเร็วก่อนตกลงไปประมาณ ร้อยสี่สิบกว่าๆไหล่ ถนนสูงประมาณ เกือบ สี่ห้าเมตร รถกระเด็นไปไกล กว่าจุดลงเกือบ สี่สิบเมตร สภาพเป็นอย่างที่เห็นในรูปข้างล่างนี้ครับ (บังเอิญเหลือเกินวันที่ผมทำเว็บนี้ กับวันที่รถตกถนน เป็นวันที่12 มิย. และ เหมือนกัน และเป็นวันเกิดลูกสาวคนที่สอง พอดี ครับ)

ถ้าสังเกตุดู จะเห็นว่าท้าย รถยับ เสียหายมากเป็นพิเศษ เนื่องจากกระแทกกับพื้นอย่างแรง หน้ายับพอสมควร แต่ห้องโดยสารไม่เป็นไรเลย คนขับ และคนนั่งไปด้วย เย็บแค่คนล่ะไม่กี่เข็ม

แต่ตัวรถยกไปที่ฮอนด้าคาร์ เค้าบอกค่าซ่อม ถ้าจะซ่อมประมาณหนึ่งล้าน(ไม่มีประกันเช่นเคย) ค่าซ่อม เท่าราคารถพอดี เลยตัดสินใจขายซากไปสองแสนห้า หลังจากนั้นอีกสองเดือน คนซื้อ เอารถกลับมาหาในสภาพสมบูรณ์ พร้อมเครื่องวีเทค ผมดูแล้ว บอกว่า รับรอง รถคันนี้เป็นรถผม แค่ทะเบียนกับ แชซซีส่วนที่มีเลขตัวถังเท่านั้น ส่วนตัวรถมาจากไหนไม่รู้

เค้าหัวเราะแฮ่ะๆ บอกรถ มากับคอนเทนเนอร์เศษกระดาษ จากญี่ปุ่น ครับ

 

Baby Benz W201 190E

รถในฝันสมัยเรียนหนังสือ เคยเห็นตอนที่รถรุ่นนี้ออกใหม่ๆ มีแต่ รถทูต วิ่งกันแถวถนนวิทยุ และสีลม สวยซะไม่มี ฉีกรูปแบบเชยๆของ Benz เก่าๆ ไปหมด (ความรู้สึกสมัยนั้น) พอ ธนบุรีเอามาเลหลังเทกระจาด จัดแคมเปญโละสต๊อค ครั้งที่ กินเนสต์ต้องเข้ามา บันทึกไว้ เลยเข้าไปร่วมจองกับเค้าด้วย ได้รถจากเบ๊นซ์ทองหล่อ ของคุณวสันต์ ได้สีน้ำเงินเข้ม เกียร์ธรรมดา

เป็นรถที่ไม่แรง นัก แต่ตีนปลายดี ทำได้เกือบสองร้อยๆ ทรงตัวดีมากๆ นิ่งเกาะถนน ตามวิสัยเบนซ์ ไม่จุกจิก

และแม้จะไม่มี ABS แต่ก็ยังไม่เคยมีปัญหาเรื่องเบรค บริการจากทองหล่อ ประทับใจมาตลอด ทำให้ความรู้สึกที่ดี ที่มีให้กับดาว สามแฉกมาตลอด จนกระทั่ง ทำให้ ตัดสินใจ ออก W124 E280 คันที่ ยังคงใช้ปัจจุบัน ออกมาแทนคันนี้ แล้ว ขายตัวนี้ให้เพื่อนรัก ไปใช้ ต่อทั้งที่ยังประทับใจกับมัน

 

BMW E36 318i

นี่ อีกคันที่เป็นรถที่ฝืนใจตัวเอง ที่บอกว่า จะไม่ใช้รถยนตรกิจอีกแล้วหลังจากที่เข็ด กับ บีเอ็ม คันเก่าที่พี่ชายให้ยืมใช้ ตอนเรียน กับ ซีตรอง แต่เห็นตอน ออกมาใหม่ดูเป็นรถที่น่าใช้ เบรคมี ABS ตอนนั้น Prelude เพิ่งตกถนนใหม่ๆ อยากหารถที่มี ABS มาแทน เลยให้เพื่อนช่วยใช้เส้น ไปแซงคิว แย่งเอารถคันนี้ออกมาได้ (คิวตอนเปิดตัวรุ่นนี้ ตอนนั้นยาวพอสมควร)

แต่พอใช้งานจริง แม้ว่า รถจะให้อัตราเร่งดี แต่กลับให้ความรู้สึก ว่าพวงมาลัยเบาเกินไป ขับเร็วเกินร้อยแปดสิบ แล้ว จะหวิวดูไม่มั่นคง ลองปรึกษากับทางยนตรกิจได้รับคำตอบว่า เป็นธรรมชาติของพวงมาลัยระบบแร๊คแอนด์พีเนียน ของ BM ซึ่งจะเบากว่า ระบบตัวหนอน ของ Benz ทำอะไรไม่ได้

ลองจับรถมาแต่งช่วงล่าง ใหม่หมด โดยการโหลดด้วยสปริงและโช้ค ของ AC Shchnitzer จาก TFC ใส่ล้อ 17" ยาง 225/45/17 พร้อมกับชุดแต่งตัวถัง Kevlar ของ AC Shchnitzer เช่นกัน แต่งแล้วสวยถูกใจ แต่ปัญหาเรื่องการทรงตัวและพวงมาลัยเบา ไม่ดีขึ้น ทำให้ไม่ค่อยกล้าใช้รถโดยเฉพาะทางไกลมากนัก ส่วนใหญ่เลยจอดไว้ดูเฉยๆมากกว่า วิ่งจนกระทั่งอายุได้สามปีกว่า วิ่งไปได้แค่ สามหมื่นกว่าโล ก็ตัดใจขายทิ้งแทนที่จะให้ฝุ่นเกาะ

เป็นรถที่ขาดทุนมากที่สุดในประวัติการใช้รถ(ซื้อ ล้านเศษนิดๆ แต่งตัวถัง ช่วงล่าง และเครื่องเสียง ประมาณ สี่แสน แต่ขายไปได้แค่ หกแสนเศษ ได้แค่ 40 กว่าเปอร์เซนต์ ของราคารถทั้งหมด ทั้งที่ได้ใช้รถแค่ สามหมื่นโลเท่านั้นเอง

เลย ย้าย มาอยู่ ชมรมชัง BMW ไปซะเลย :)

AC Shchnitzer

ISUZU Family

----

กระบะก็ ใช้ นะครับ ก็อยู่บ้านนอก นี่ครับ ต้องมีลุยกันมั่ง :)

ทุกๆ คันที่ใช้ มา เป็นอีซูซุ ทั้งหมด ใช้ดีไม่มีปัญหา (ยกเว้นอืดไปหน่อย) แต่ราคาขายต่อดีจน น่าตกใจ และ ชวนให้เปลี่ยนบ่อยๆ ทุกครั้งที่รุ่นใหม่ออกมา

ไม่เหมือนไอ้คันข้างบน นั่น :) ยังไม่หายเซ็ง

-=JFK=- HP

My Best friends
My Another friends
my family
Sunflower field
Buatong field
Joke-=jfk=-