รักษาโรคอัลซ์ไฮเมอร์ด้วยแปะก้วย
นักวิทยาศาสตร์พบต้นแปะก้วยช่วยให้ผู้ป่วยโรคอัลซ์ไฮเมอร์มีอาการดีขึ้น
แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายยังเตือนให้ระวังในการบริโภคสารสกัดจากพืชดังกล่าวเพราะมีเรื่องการค้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
โรค
อัลซ์ไฮเมอร์
(Alzheimers disease) เป็นโรคที่เพิ่งจะเป็นที่กล่าวถึงกันอย่างหนาหูในบ้านเราเมื่อไม่นานมานี้
แต่ที่จริงแล้วโรคนี้เป็นโรคที่ค้นพบมาเกือบร้อยปีแล้ว
คือตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1907 โดยนายแพทย์อัลซ์ไฮเมอร์
ต่อมาจึงนำชื่อของผู้ค้นพบมาใช้เป็นชื่อโรค
ชื่ออัลซ์ไฮเมอร์นี้เป็นการออกเสียงตามสำเนียงเยอรมันตามเจ้าของชื่อ
แต่ในภาษาอังกฤษโดยทั่วไปมักออกเสียงเป็น
อัลไซเมอร์
แต่อย่างไรก็ดี
หากพูดเร็วๆแล้วทั้งอัลซ์ไฮเมอร์และอัลไซเมอร์จะฟังคล้ายกันมาก
โรคอัลซ์ไฮเมอร์นี้เป็นโรคสมองเสื่อมชนิดหนึ่ง
ผู้ป่วยจะค่อยๆปรากฏอาการสมองเสื่อม
โดยจะมีความเสื่อมทั้งด้านความจำ
สติปัญญา การพูด
ความคิดอ่าน
และการตัดสินใจ
อาการที่ปรากฏให้เห็นคือหลงลืม
เรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ยาก
วางข้าวของผิดที่
สับสน เลอะเลือน
บุคลิกภาพเสื่อม
ตัดสินใจผิดพลาด
ใช้เหตุผลน้อยลง
ช่างกังวล หงุดหงิดรำคาญ
ตึงเครียด และกระวนกระวาย
รวมทั้งเซลล์สมองจะเกิดการหดเหี่ยว
(atrophy) สาเหตุของโรคนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด
รวมทั้งเป็นโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้
ผู้ที่เป็นโรคนี้แล้วสมองจะเสื่อมลงเรื่อยๆอย่างไม่สามารถหยุดยั้งได้
โรคนี้มักเป็นในผู้สูงอายุตั้งแต่อายุ
65 ปี ขึ้นไป ในวัยกลางคนก็พอพบได้บ้างแต่น้อย
ส่วนที่เกิดในวัยหนุ่มสาวนั้นมีน้อยมาก
มีชาวอเมริกันถึง
4 ล้านคนที่ป่วยเป็นโรคนี้
หนึ่งในจำนวนนั้นมีคนดังที่เรารู้จักกันดีด้วย
นั่นคืออดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
นายโรแนลด์
เรแกน
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่าวงการแพทย์ยังไม่พบวิธีการรักษาโรคนี้
วิธีที่เป็นความหวังในอนาคตก็คือการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อสมอง
ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการค้นคว้าวิจัย
แต่อย่างไรก็ดีเมื่อไม่นานมานี้
นักวิทยาศาสตร์เชื้อสายฝรั่งเศสที่ทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกาก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงการใช้สารสกัดจากพืชในการบรรเทาโรคร้ายนี้
งานวิจัยชิ้นนี้เป็นผลงานของ
ดร.ปีแยร์ เลอ
บาร์ ทำงานอยู่ที่สถาบันวิจัยการแพทย์แห่งนิวยอร์ก
ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยดังกล่าวในวารสารของสมาคมการแพทย์อเมริกัน
ส่วนพืชดังกล่าวมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า
จิงโก ไบโลบา
(Gingko biloba) และมีชื่อสามัญว่า
maidenhair tree หรือต้น ผมของสาวน้อย
ชื่อไทยนั้นไม่มี
แต่ถ้าบอกชื่อจีนแล้วก็คงจะต้องร้องอ๋อ
เพราะพืชที่ว่านี้แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่อื่นไกลก็คือ
แปะก้วย
นั่นเอง
|
|
ลักษณะใบและเมล็ดของต้นแปะก้วย
ต้นแปะก้วยนี้เป็นต้นไม้โบราณชนิดหนึ่ง
ไม่มีดอก ผสมพันธุ์แล้วไม่ได้ผลแบบไม้ดอกทั่วไป
แต่จะได้เมล็ดแทน
(เช่นเดียวกับต้นสน)
|
แปะก้วยที่เรารู้จักกันนั้นเป็นส่วนของผล
มีราคาแพง
ชาวจีนนิยมนำมาปรุงเป็นของหวาน
ในการรับประทานเลี้ยงแบบโต๊ะจีนในบ้านเรานั้น
หากเป็นโต๊ะจีนที่มีราคาพอสมควร
ของหวานจานสุดท้ายก็มักเป็นเผือกกวนและเมล็ดแปะก้วยนี่เอง
แต่ถ้าเป็นโต๊ะจีนราคาประหยัดของหวานก็อาจเป็นผลไม้กระป๋องแทน
ดร. เลอ บาร์
ได้ทดลองใช้สารสกัดกับผู้ป่วยอัลซ์ไฮเมอร์
300 คน โดยแบ่งผู้ป่วยออกเป็น
2 ส่วนเท่าๆกัน
ส่วนหนึ่งให้รับประทานสารสกัดจากต้นแปะก้วยหรือสารสกัดจิงโกทุกวัน
วันละ 3 ครั้ง
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งให้ยาหลอกเพื่อใช้เป็นกลุ่มเปรียบเทียบผล
ผลการทดลองปรากฏว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับสารสกัดแปะก้วยมีอยู่หนึ่งในสามที่มีอาการทางสมองดีขึ้น
ที่ว่าดีขึ้นนี้แบ่งออกเป็น
2 กรณี คือ กรณีแรก
มีความจำดีขึ้น
ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือแม้จะไม่ได้มีความจำดีขึ้น
แต่ความจำทรงอยู่กับที่
ไม่มีอาการเสื่อมถอยลงไปอีก
เนื่องจากสารสกัดแปะก้วยนี้ในปัจจุบันมีวางขายทั่วไปในสหรัฐฯ
จัดเป็นอาหารเสริมบำรุงสุขภาพชนิดหนึ่ง
สรรพคุณตามที่กล่าวอ้างกันก็คือบำรุงสมอง
บำรุงความจำ
ดังนั้นเมื่อข่าวงานวิจัยนี้แพร่ออกไปก็เป็นที่คาดได้ว่ายอดขายของสารสกัดดังกล่าวจะต้องพุ่งขึ้น
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านอัลซ์ไฮเมอร์คนอื่นๆจึงได้ออกโรงเตือนผู้ป่วยเพราะเกรงว่าจะแห่กันไปซื้อสินค้าดังกล่าว
|
สารสกัดจิงโกหรือสารสกัดแปะก้วย
เป็นอาหารเสริมที่กำลังนิยมกันใน
สหรัฐอเมริกา
|
เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาเตือนว่าการสรุปว่าสารสกัดแปะก้วยนี้ช่วยรักษาอาการสมองเสื่อมจากโรคอัลซ์ไฮเมอร์ได้นั้นยังเร็วไป
ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมให้มากกว่านี้
อีกทั้งสารสกัดที่ว่าก็มีวางขายกันหลายชนิด
หลายยี่ห้อ
แต่ละชนิดก็มีองค์ประกอบทางเคมีแตกต่างกันไปตามแต่กรรมวิธีในการผลิต
อีกทั้งยังไม่ทราบด้วยว่าองค์ประกอบทางเคมีของสารสกัดแปะก้วยที่ใช้ในการทดลองนั้นแตกต่างจากที่วางขายกันอยู่มากน้อยเพียงใด
ดังนั้นจึงไม่มีใครยืนยันได้ว่าหากซื้อสารสกัดแปะก้วยในท้องตลาดมารับประทานแล้วจะได้ผลดีอย่างที่หวังไว้
แต่ผลเสียนั้นมีแน่
เพราะสารสกัดแปะก้วยนี้มีฤทธิ์ทำให้ความหนืดของเลือดลดลง
ดังนั้นจะทำให้เลือดไหลแล้วหยุดได้ยาก
ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับผู้ที่เป็นโรคบางชนิดอยู่
ดังนั้นผู้ที่ป่วยด้วยโรคอัลซ์ไฮเมอร์หากต้องการทดลองรับประทานสารสกัดแปะก้วยจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อน
ดวงอาทิตย์เขียว

หากมีใครบอกว่าเคยเห็นดวงอาทิตย์เป็นสีเขียว
เราอาจคิดว่าคนผู้นั้นคงจะเพียน
แต่แท้ที่จริงแล้วดวงอาทิตย์ก็มีสิทธิ์เป็นสีเขียวได้
อย่างที่เห็นในภาพนี้
(สังเกตตรงขอบด้านบนของดวงอาทิตย์
จะเห็นประกายสีเขียวเรือง)
ภาพนี้ไม่ได้ผ่านการตกแต่งแต่อย่างใด
ถ่ายจากสภาพธรรมชาติและใช้แสงตามธรรมชาติ
เราจะเห็นดวงอาทิตย์เขียวนี้ได้ตอนที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าหมดดวง
และตอนที่ดวงอาทิตย์เริ่มปรากฏที่ขอบฟ้า
แต่ละช่วงจะใช้เวลาเพียง
2-3 วินาทีเท่านั้น
และไม่ได้เห็นเขียวไปทั้งดวง
คงเห็นเป็นสีเขียวแต่เพียงขอบส่วนเดียวเท่านั้น
หากเกรงว่าจะมองไม่ทันควรใช้กล้องถ่ายภาพไว้จะเห็นได้ชัดกว่า
ส่วนภาพถ่ายที่เห็นนี้ค่อนข้างจะหาดูและหาถ่ายได้ยาก
เพราะสามารถเห็นขอบสีเขียวได้ตั้งแต่ดวงอาทิตย์เพิ่งจมหายไปที่ขอบฟ้า
ปรากฏการณ์นี้วิทยาศาสตร์อธิบายได้ว่าเกิดจากการหักเหของแสงในชั้นบรรยากาศของโลก
เช่นเดียวกับที่เราเห็นดวงอาทิตย์ยามเช้าและเย็นเป็นสีแดง
แต่ตอนกลางวันเป็นสีขาวเจิดจ้าจนแสบตา
นั่นก็เพราะการหักเหของแสงผ่านชั้นบรรยากาศของโลกเช่นกัน
อย่าว่าแต่เห็นสีแดงหรือเขียวเพียง
2 สีเลย หักเหให้เห็นเป็น
7 สีก็ยังได้
ก็รุ้งกินน้ำไง