คู่มือการจัดกิจกรรมแนะแนวตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
|
|
ความสำคัญ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มีความมุ่งหมายและหลักการว่า
การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ
สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม
มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุขและกำหนดแนวการจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด
กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติ
และเต็มตามศักยภาพ โดยจัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจ
และความถนัดของผู้เรียน
คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึกทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์
และการประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกัน แก้ไขปัญหา
และเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
ดังนั้นหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
จึงกำหนดให้มีสาระการเรียนรู้ 8
กลุ่มวิชา และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ทั้งนี้กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน แบ่งเป็น 2 กิจกรรม คือ 1.
กิจกรรมนักเรียน 2.
กิจกรรมแนะแนว |
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมและเทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดทั้งผลดีและผลเสีย ส่งผลให้การดำเนินชีวิตในปัจจุบันมีความยุ่งยากซับซ้อนมากยิ่งขึ้น บุคคลจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิถี การดำเนินชีวิตให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี กิจกรรมแนะแนวจึงมีความสำคัญในการทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุขบนพื้นฐานของการรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น
ธรรมชาติ/ลักษณะเฉพาะ
กิจกรรมแนะแนวเป็นกระบวนการพัฒนาและช่วยเหลือผู้เรียนด้วยการจัดบริการ
และกิจกรรมที่หลากหลายทั้งเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม โดยมุ่งให้ผู้เรียนสามารถจัดการชีวิตของตนได้ตามความสนใจ ความถนัด และความสามารถบนพื้นฐานของความเชื่อว่าคนเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า สามารถพัฒนาให้เจริญงอกงามได้เต็มตามศักยภาพของแต่ละบุคคล ขอบข่าย การจัดกิจกรรมแนะแนว สถานศึกษาต้องจัดทั้งบริการ และกิจกรรมให้ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา อาชีพ
ส่วนตัวและสังคม
เป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม
โดยมีการดำเนินการ ดังนี้ 1.
งานศึกษาและรวบรวมข้อมูล 2.
งานสารสนเทศ 3.
งานให้คำปรึกษา 4.
งานกิจกรรมส่งเสริม พัฒนา
และช่วยเหลือผู้เรียน 5.
งานติดตามผล
|